ใช้ Apple Music ได้ฟรีนาน 3 เดือน เมื่อซื้ออุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ ตรวจสอบการมีสิทธิ์

Apple Music

สำหรับคนที่รักในเสียงเพลง

เล่นเพลงกว่า 100 ล้านเพลงแบบไม่มีโฆษณา และฟังเสียงที่มีคุณภาพเหนือชั้นขึ้นไปอีกระดับด้วยระบบเสียงตามตำแหน่ง1 และเสียงแบบ Lossless2 นอกจากนี้ คุณยังสามารถครองเวทีได้ด้วย Apple Music Sing เข้าถึงรายการสัมภาษณ์รวมถึงคอนเสิร์ตแบบสดสุดพิเศษ และฟังได้จากทุกอุปกรณ์ของคุณ ไม่ว่าจะออนไลน์หรือออฟไลน์ บอกเลยว่าแอปเพลงสำหรับคนที่รักในเสียงเพลงอยู่ที่นี่แล้ว





ลองใช้ฟรี 1 เดือนสำหรับสมาชิกใหม่

สมาชิกใหม่สามารถใช้ Apple Music ได้ฟรี 1 เดือน จากนั้นจะมีค่าบริการ ฿139 ต่อเดือน

ลองใช้ฟรี*





ลองใช้ฟรี 1 เดือนกับ Apple One

รวม Apple Music กับบริการเยี่ยมๆ อีกสูงสุด 3 บริการเข้าเป็นชุดเดียวกันในราคาต่อเดือนแบบเบาๆ ดูเพิ่มเติม

แผนบริการ
แบบนักศึกษา
มาพร้อมกับ
สิทธิ์ใน
การใช้ Apple TV+

นักศึกษาสามารถใช้งาน Apple Music ได้ฟรี 1 เดือน พร้อมรับสิทธิ์ในการใช้ Apple TV+

ใช้ Apple Music ได้ฟรีนาน 3 เดือน เมื่อซื้ออุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ ตรวจสอบการมีสิทธิ์

คุณภาพเสียง

เปิดประตู
สู่มิติใหม่แห่งเสียง

ค้นพบเพลง

ที่ที่เพลงโปรดใหม่ๆ
รอคุณอยู่

คอนเทนต์สุดพิเศษ

ประสบการณ์ที่คาดไม่ถึง
เฉพาะที่นี่เท่านั้น

Apple Music Live

Peggy Gou

Apple Music Sing

เริ่มเลย
คอรัส
พร้อมแล้ว

การฟังที่แชร์

ท่วงทำนองแห่งมิตรภาพ

ภาพหน้าปกจากเพลย์ลิสต์ที่ใช้งานร่วมกันที่มีชื่อว่า Road Trip Playlist ที่มี Memoji อยู่ล้อมรอบ

ฟัง Apple Music ได้บนทุกอุปกรณ์ของคุณ

อีกมากมายหลายที่ที่ให้คุณเข้าถึง Apple Music

ตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณ

  • Playstation
  • Roku
  • Samsung
  • LG Smart TV
  • Alexa
  • Google Nest
  • Microsoft

เลือกแผนที่ใช่
สำหรับคุณ

ไม่มีข้อผูกมัด และจะยกเลิกตอนไหนก็ได้

แบบนักศึกษา8

฿79/เดือน

ลองใช้ฟรี

แบบบุคคล

฿139/เดือน

ลองใช้ฟรี*

แบบครอบครัว9

฿219/เดือน

ลองใช้ฟรี

คุณสมบัติ

แบบนักศึกษา8/
แบบบุคคล

แบบนักศึกษา8

แบบบุคคล

แบบครอบครัว9

100 ล้านเพลงและมากกว่า 30,000 เพลย์ลิสต์ที่คัดสรรโดยผู้เชี่ยวชาญ

มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้

ขอเพลง อัลบั้ม เพลย์ลิสต์ หรือสถานีวิทยุไหนก็ได้ ง่ายๆ แค่บอก Siri หรือใช้คุณสมบัติพิมพ์โต้ตอบกับ Siri

มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้

ทดลองใช้บริการฟรีแบบไม่มีข้อผูกมัด10

มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้

สตรีมเพลงได้แบบไม่มีโฆษณา

มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้

พบกับรายการต้นฉบับ คอนเสิร์ต และรายการพิเศษ รวมถึงสถานีวิทยุทั้งแบบสดและออนดีมานด์ที่จัดโดยศิลปิน

มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้

ใช้งานได้บนอุปกรณ์ Apple

มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้

ใช้งานได้บนอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ

มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้

ระบบเสียงตามตำแหน่งพร้อม Dolby Atmos

มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้

เพลงทั้งแค็ตตาล็อกในแบบ Lossless

มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้

Apple Music Sing พร้อมเนื้อเพลงที่ขึ้นตามจังหวะและเสียงร้องที่ปรับแต่งได้6

มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้

ดาวน์โหลด 100,000 เพลงมาไว้ในคลัง และเข้าถึงทั้งคลังเพลงของคุณจากอุปกรณ์ใดก็ได้แล้วฟังแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ได้

มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้

ดูว่าเพื่อนๆ ของคุณกำลังฟังอะไร

มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้

ใช้งานได้ไม่จำกัดสำหรับสมาชิกสูงสุด 6 คน

มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้
มีมาให้

คลังเพลงส่วนตัวสำหรับสมาชิกแต่ละคนในครอบครัว

ไม่มีมาให้
ไม่มีมาให้
ไม่มีมาให้
มีมาให้

รายการแนะนำซึ่งปรับแต่งมาสำหรับสมาชิกแต่ละคนในครอบครัว

ไม่มีมาให้
ไม่มีมาให้
ไม่มีมาให้
มีมาให้
วิธีตั้งค่าวิธีการชำระเงิน

ใช้ AppleMusic ได้ฟรีนาน 3 เดือน เมื่อซื้ออุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์

รวม 4 บริการ
ของ Apple เข้าเป็น
ชุดเดียวกัน และเพลิดเพลินได้มากขึ้น

ในราคาที่คุ้มค่า

แผนบริการ Apple Music แบบนักศึกษา
มาพร้อมกับสิทธิ์การใช้ Apple TV+ ฟรี4

เมื่อมีคำถาม เราก็มีคำตอบ

  • Apple Music คือบริการสตรีมมิ่งที่ให้คุณฟังเพลงได้กว่า 100 ล้านเพลง และยังมาพร้อมคุณสมบัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดแทร็คโปรดและฟังแบบออฟไลน์ เนื้อเพลงแบบเรียลไทม์ การฟังบนอุปกรณ์ทุกเครื่องที่คุณชอบ เพลงใหม่ที่เลือกมาให้คุณโดยเฉพาะ ตลอดจนเพลย์ลิสต์ที่คัดสรรโดยบรรณาธิการของเรา และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีคอนเทนต์สุดพิเศษและคอนเทนต์ต้นฉบับอีกด้วย

    คลัง iTunes ของคุณก็ยังเป็นของคุณอยู่ ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงคอลเลกชั่นทั้งหมดของตัวเองได้จาก Apple Music หรือจาก iTunes บน macOS หรือ Windows

  • Apple Music นั้นมีอยู่แล้วบน iPhone, iPad, Apple Watch, Apple TV 4K, Mac และลำโพง HomePod ของคุณ และคุณสามารถฟังด้วย CarPlay หรือฟังแบบออนไลน์ทาง music.apple.com/th ก็ได้ นอกจากนี้ Apple Music ยังมีให้บริการทั้งบนอุปกรณ์ Windows และ Android, ลำโพง Sonos, Google Nest, สมาร์ททีวี และอีกมากมาย

  • ขึ้นอยู่กับข้อเสนอที่คุณเลือก (1) นักศึกษาสามารถเลือก Apple Music แบบนักศึกษาในราคา ฿79 ต่อเดือน (2) สมัครสมาชิกรายเดือนแบบบุคคลในราคาเพียง ฿139 ต่อเดือน หลังหมดช่วงทดลองใช้ฟรี (3) Apple Music แบบครอบครัวให้คุณแชร์บัญชีของคุณกับคนอื่นๆ ได้สูงสุด 5 คน โดยที่สมาชิกแต่ละคนจะมีบัญชีเป็นของตัวเอง ในราคาเพียง ฿219 ต่อเดือน (4) แผนบริการ Apple Music แบบบุคคลทั่วไป และแผนบริการ Apple Music แบบครอบครัวมีอยู่ใน Apple One ซึ่งเป็นการรวมบริการอื่นๆ ของ Apple สูงสุด 3 บริการเข้าเป็นหนึ่งการสมัครสมาชิกรายเดือน แผนบริการ Apple One เริ่มต้นที่ ฿369 ต่อเดือน

  • นักศึกษาสามารถเข้าถึงคุณสมบัติและสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของ Apple Music ได้เช่นเดียวกับผู้ที่ใช้แผนบริการแบบบุคคล เมื่อคุณได้รับการยืนยันสถานะนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับสิทธิ์ให้ใช้ราคาสมาชิกแบบนักศึกษาเป็นเวลาสูงสุด 4 ปี ตราบใดที่คุณยังเป็นนักศึกษาอยู่ และเมื่อครบ 4 ปี การสมัครสมาชิกของคุณจะดำเนินต่อในราคาสมาชิกแบบบุคคล

  • ได้ โดยคุณสามารถสนุกเพลิดเพลินกับทุกคุณสมบัติของ Apple Music และ Siri ได้เพียงแค่มีอุปกรณ์ที่รองรับ Siri และแผนบริการ Apple Music แบบใดก็ได้ และทุกแผนยังรองรับคุณสมบัติพิมพ์โต้ตอบกับ Siri ด้วย

  • Dolby Atmos คือเทคโนโลยีระบบเสียงซึ่งสร้างประสบการณ์การฟังที่เต็มอิ่มสมจริงในแบบที่เสียงมาจากรอบตัวคุณ

    สมาชิก Apple Music ที่ใช้ Apple Music เวอร์ชั่นล่าสุดบน iPhone, iPad, Mac หรือ Apple TV 4K สามารถใช้หูฟังใดก็ได้ฟังเพลงหลายพันแทร็คที่มาพร้อม Dolby Atmos โดยเมื่อคุณฟังด้วยหูฟัง Apple หรือ Beats หรือหูฟัง Bluetooth ส่วนใหญ่ที่ใช้งานร่วมกันได้ เพลงที่มาพร้อม Dolby Atmos ก็จะเล่นในแบบ Dolby Atmos โดยอัตโนมัติ สำหรับหูฟังอื่นๆ ให้ไปที่ "การตั้งค่า > เพลง > เสียง" แล้วตั้งค่า Dolby Atmos เป็น "เปิดตลอด" นอกจากนี้คุณยังสามารถฟังเพลงที่มาพร้อม Dolby Atmos โดยใช้ลำโพงในตัวของ iPhone, iPad, MacBook Pro, MacBook Air หรือ iMac รุ่นที่ใช้งานร่วมกันได้ หรือโดยการเชื่อมต่อ Apple TV 4K กับอุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ลำโพง HomePod ที่ตั้งค่าให้เป็นลำโพงเริ่มต้น, ซาวด์บาร์ที่ใช้งานร่วมกับ Dolby Atmos ได้, เครื่องรับสัญญาณ AV ที่รองรับ Dolby Atmos หรือโทรทัศน์ที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ดูรายชื่ออุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้คุณสมบัตินี้ได้ที่ support.apple.com/th-th/HT212182

  • การบีบอัดเสียงแบบ Lossless เป็นการลดขนาดไฟล์เพลงต้นฉบับโดยที่ยังเก็บรักษาข้อมูลทั้งหมดได้อย่างครบถ้วน และ Apple Music ก็กำลังทำให้เพลงทั้งหมดในแค็ตตาล็อกที่มีกว่า 100 ล้านเพลงเป็นเสียงแบบ Lossless ในความละเอียดที่แตกต่างกัน โดยใน Apple Music นั้น "Lossless" หมายถึงเสียงแบบ Lossless ที่มีความละเอียดสูงสุด 48kHz ในขณะที่ "Hi‑Res Lossless" หมายถึงเสียงแบบ Lossless ที่มีความละเอียดตั้งแต่ 48kHz ถึง 192kHz อย่างไรก็ตาม ไฟล์ Lossless และ Hi‑Res Lossless มีขนาดใหญ่มาก อีกทั้งยังใช้แบนด์วิดท์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงกว่าไฟล์ AAC แบบมาตรฐานมาก

    คุณสามารถฟังเสียงแบบ Lossless ได้โดยใช้แอป Apple Music เวอร์ชั่นล่าสุดบน iPhone, iPad, Mac หรือ Apple TV 4K เพียงแค่เปิดใช้งานเสียงแบบ Lossless ใน "การตั้งค่า > เพลง > คุณภาพเสียง" ซึ่งคุณสามารถเลือกระหว่าง Lossless และ Hi‑Res Lossless สำหรับการเชื่อมต่อระบบเซลลูลาร์หรือ Wi‑Fi แต่ทั้งนี้ Hi‑Res Lossless จะต้องใช้กับอุปกรณ์ภายนอก อย่างตัวแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอนาล็อกแบบ USB

    ดูรายชื่ออุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้คุณสมบัตินี้ได้ ได้ที่ support.apple.com/th-th/HT212183

  • ได้ แผนบริการ Apple Music แบบครอบครัวให้คุณใช้งานร่วมกับสมาชิกได้สูงสุด 6 คน โดยที่ทุกคนจะได้เพลิดเพลินกับคุณสมบัติเต็มรูปแบบและแค็ตตาล็อกทั้งหมดของ Apple Music หากต้องการเริ่มใช้งาน เพียงตั้งค่า "การแชร์กันในครอบครัว" บนอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS, โทรศัพท์ Android หรือ Mac ของคุณ แล้วเชิญสมาชิกในครอบครัวมาเข้าร่วมได้เลย

  • Apple Music ไม่มีโฆษณา

  • สมาชิกใหม่สามารถใช้ Apple Music ได้ฟรีนาน 3 เดือน เมื่อซื้ออุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ ตรวจดูให้แน่ใจว่า iPhone หรือ iPad ของคุณใช้ iOS หรือ iPadOS เวอร์ชั่นล่าสุดอยู่ จากนั้นคุณจะสามารถรับสิทธิ์ทดลองใช้ Apple Music ได้ หลังจากที่คุณจับคู่อุปกรณ์กับ iPhone หรือ iPad ของคุณแล้ว โดยคุณมีระยะเวลา 3 เดือนในการรับสิทธิ์หลังจากเปิดใช้งานอุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ครั้งแรก

ร่วมงานกับ Apple Music

Apple Music สนับสนุนศิลปินด้วยเครื่องมือสำหรับการสร้างสรรค์ เผยแพร่ โปรโมท และวัดผลเพลงบนเวทีระดับโลก แล้วถ้าอยากสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนคลับเมื่อมีเพลงออกใหม่ ก็ทำได้ด้วยชิ้นงานสื่อโซเชียลที่สวยงามและปรับแต่งได้ รวมถึงฉลองช่วงเวลาสำคัญเมื่อยอดเล่นเพลง ยอดค้นหาเพลงใน Shazam และยอดเพิ่มเพลงลงในเพลย์ลิสต์ถึงเป้าด้วย Milestones รวมถึงยังมีอีกหลากหลายวิธีในการโชว์ผลงานบน Apple Music ไม่ว่าจะเป็น MusicKit, ฟีด RSS, วิดเจ็ต, แนวทางสำหรับแบรนด์, ป้ายกำกับ และอื่นๆ